คุณจะได้ชมภาพเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือจากโจโบโนะซาโตะ ถือกำเนิดอีกครั้งเป็นลานแคมปิ้งในปี 2021 อาทิตย์ลับฟ้าสู่ขุนเขา อาทิตย์รุ่งอรุณ ถ้าโชคดี คุณอาจได้เห็นทะเลหมอก ที่นี่มีต้นซากุระถึง 150 ต้นให้คุณได้ชมซากุระบานเต็มที่ในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีแสนสวยก็พลาดไม่ได้เช่นกัน#โอตาริ_การกลับมาของโจโบโนะซาโตะ

ทะเลสาบคิซากิ สถานที่ซึ่งคุณจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงามอย่างไม่เบื่อตลอด 365 วัน สีเขียวขจีของใบไม้ในฤดูใบไม้ผลิ เล่นน้ำในฤดูร้อน ชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ภาพทิวทัศน์หิมะในฤดูหนาว นอกจากนั้นยังสนุกกับการตกปลาวาคาซางิได้ตลอดปี และมีกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลายที่กำลังได้รับความสนใจ เช่น เล่นซับบอร์ด พายเรือแคนู#โอมาจิ_ล่องเรือกลับสู่คิซากิ

รีสอร์ตในภูเขาที่มี “ฮาคุบะ เมาน์เทนฮาเบอร์” ซึ่งกำลังได้รับความสนใจ เพียงนั่งกอนโดลาขึ้นไปต่อเดียวก็จะได้ชมภาพทิวทัศน์ตระการตาจากยอดเขา นอกจากจะได้ชมภาพความงามในแต่ละฤดูกาล เช่น ต้นไม้เขียวขจี ใบไม้เปลี่ยนสี หิมะบนภูเขา ยังมีกิจกรรมอื่นอีกหลากหลาย เช่น เล่นชิงช้าชมวิว ขี่จักรยานเสือภูเขา ในฤดูหนาวก็มาท่องเที่ยวได้ไม่ยาก#ฮาคุบะ_ลมภูเขาแห่งอิวาตาเกะ

ชมภาพทิวทัศน์กว้างไกลซึ่งมีสิ่งบดบังสายตาเพียงน้อยนิดจากวาราบิไดระ ดื่มด่ำกับภาพวิวอันงดงามนั้นจากจุดที่อยู่ท่ามกลางทุ่งนากว้างใหญ่การล่องแพที่แม่น้ำฮิเมคาวะในฤดูร้อนก็เป็นกิจกรรมที่เราแนะนำด้วยเช่นกัน ที่นี่เป็นจุดชมดาวแสนสวยบนท้องฟ้ายามราตรีในคืนอากาศดีในฤดูหนาวรวมถึงในฤดูร้อนด้วย#ฮาคุบะ_หิมะยามเย็นที่วาราบิไดระ

ภูเขาที่มีธารน้ำแข็งซึ่งหาได้ยากในญี่ปุ่น การปีนเขานี้ค่อนข้างง่าย มีคนพาเด็กมาด้วยไม่น้อย เดินทางจากเชิงเขาไปถึงยอดเขาได้โดยใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมงครึ่งด้วยการนั่งลิฟต์ ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมวิวคือเดือนกันยายน - ตุลาคม ชมภาพอาทิตย์รุ่งอรุณอันงดงามน่าประทับใจได้จากถนนสายคุโรบิชิสกายไลน์#ฮาคุบะ_ดวงจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วงแห่งคารามัตสึ

ภาพสะท้อนบนผิวน้ำในทะเลสาบที่ดูราวกระจกนั้นคือสีชมพูเข้มของต้นโอยามะซากุระ ในช่วงซากุระบานเต็มที่ (ปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม) คนหลายร้อยคนจะพากันมาที่นี่แต่เช้าตรู่เพื่อถ่ายรูปความงามนี้ไว้ ภาพทิวทัศน์ขณะหมอกลงยิ่งสวยประทับใจ นอกจากการตกปลาเฮราบุนะ ปลามาบุนะ และปลาอุกุยแล้ว การเจาะรูน้ำแข็งเพื่อตกปลาวาคาซางิในฤดูหนาวก็ได้รับความนิยมเช่นกัน#โอมาจิ_ฝนยามราตรีแห่งนากาสึนะ

วัดนี้สร้างขึ้นมาเมื่อ 600 ปีก่อน ใครๆ ก็ต้องตกใจว่ามีวัดสวยงามขนาดนี้อยู่ในหุบเขาลึกด้วยหรือ ประตูทางเข้าสร้างแบบสองชั้นแกะสลักลวดลายงดงามโดยช่างฝีมือในการสร้างวัด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกจังหวัด ที่นี่คือวัดในนิกายโซโตที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดนางาโนะ ต้นโอฮะสึกิอิโจที่มีลูกแปะก้วยติดอยู่ที่ใบ ช่วงชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน#โอมาจิ_ระฆังยามเย็นแห่งเรโช

ภูเขาอามาคาซาริคือหนึ่งในร้อยภูเขาเลื่องชื่อของญี่ปุ่น ยอดเขาที่ความสูง 1963 เมตรนั้นคือเขตแดนจังหวัดกับจังหวัดนีงาตะ จากบนยอดเขา คุณจะได้ชมภาพทะเลญี่ปุ่น เกาะซาโดะ และเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ ช่วงชมใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนตุลาคมจะมีนักปีนเขาจำนวนมาก มาดื่มด่ำภาพทิวทัศน์แสนสวยด้วยใบไม้สีเหลืองสีแดงให้อิ่มเอิบใจ#โอตาริ_แสงยามเย็นแห่งอามาคาซาริ

เมื่อเข้าสู่เดือนเมษายน ถนนสายต้นซากุระจะมีดอกซากุระบานสะพรั่งต่อเนื่องไปจนสุดตา จากเนินสูงด้านตะวันออกของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ คุณสามารถชมซากุระและภูเขาขนาดใหญ่ไปพร้อมกันได้จากทุกจุด และขอแนะนำให้ใช้เป็นเส้นทางขับรถเล่น เดินเล่น และขี่จักรยานด้วยเช่นกัน#โอมาจิ_ถนนสายท่องเที่ยว

ตัวอาคารหลัก ประตูกลาง ทางเชื่อมระหว่างอาคาร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติในฐานะ “การสร้างแบบชินเมที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น” (รูปแบบการสร้างศาลเจ้า) แผ่นไม้บันทึกการก่อสร้าง “โมคุโซมุนะบุตะ” ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมชิ้นสำคัญยังคงหลงเหลืออยู่ ในบรรดาประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ ปัจจุบันยังคงจัด “พิธีสำหรับการเริ่มเพาะปลูกแบบโบราณ” หรือ “คะงุระ” ในงานเทศกาลฤดูใบ้ไม้ร่วงอยู่#โอมาจิ_นิชินะชินเมกู

“โจจิยะ” คือพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์รวมถึงการดำเนินชีวิตของผู้คนที่เส้นทาง “ชิโอะโนะมิจิ” ขอเชิญชมภาพการดำเนินชีวิตในพื้นที่นี้ที่แสดงอยู่ในอาคารของตระกูลฮิระบายาชิที่มีมาแต่สมัยเอโดะ คุณอาจได้ทราบเรื่องราวน่าประทับใจจากประวัติศาสตร์ของที่นี่แทนที่จะได้เกลือก็ได้#โอมาจิ_โจจิยะ

ซาโนะซากะโทเกะเป็นทางที่ไม่ได้ลาดยางแม้ในปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในเส้นทางชิโอะโนะมิจิ ลานจอดรถซาโนะซากะมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 780 เมตร จุดสูงสุดของถนนระหว่างภูเขาสูงประมาณ 850 เมตร ทำให้เป็นถนนเส้นเดี่ยวที่ทางเรียบ ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมวิวคือเดือนมิถุนายน - สิงหาคม ในช่วงก่อนใบไม้งอกออกมา คุณสามารถมองเห็นทะเลสาบอาโอกิได้ทั่ว ส่วนในฤดูร้อนจะมีบรรยากาศน่ามหัศจรรย์ที่เกิดจากมวลหมู่ใบไม้#ฮาคุบะ_ซาโนะซากะ

ดอกไฮเดรนเยียที่ดูรู้ว่าได้รับการดูแลอย่างดีบานสวยด้วยความภาคภูมิใจในพื้นที่ชื่อชินเด็น รายรอบด้วยบ้านเรือนโบราณและสิ่งก่อสร้างหลังคามุงจากหลังใหญ่ ด้านหน้ามีภาพทิวทัศน์ภูเขาที่มองเห็นลานสกีฮาคุบะอิวาตาเกะ ถนนติดตั้งไฟถนนไว้อย่างดี ทำให้มีแสงสว่างอุ่นตาส่องในเวลากลางคืน#หมู่บ้านฮาคุบะ_ชินเด็น

อุชิคาตะยาโดะสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 บ้านเรือนในยุคนั้นสร้างขึ้นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นขนาดเสาบ้านและจำนวนเสา โครงสร้าง และอื่นๆ หน้ากว้าง 6 เคน ลึก 10 เคน (เคนคือหน่วยวัดแบบโบราณของญี่ปุ่น, 1 เคน = ประมาณ 1.82 เมตร) คุณสามารถจินตนาการได้ว่าบ้านในนิทานโบราณคือบ้านเช่นนี้ ที่นี่เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของหมู่บ้านโอตาริ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำจังหวัดในปีค.ศ. 2009 ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์#โอตาริ_อุชิคาตะยาโดะ

แม่น้ำฮิเมคาวะคือแม่น้ำที่ไหลผ่าน HAKUBAVALLEY ที่ฝั่งขวาของแม่น้ำฮิเมคาวะในหมู่บ้านโอตาริ ผู้คนดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับในอดีตและยังมีเส้นทางชิโอะโนะมิจิเหลืออยู่ เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ในสมัยที่ใช้เส้นทางนี้ขนเกลือและสมัยเซงโกกุ เราขอเชิญชวนให้คุณลองนั่งรถไฟสายโออิโตะซึ่งเป็นรถไฟที่ไม่ใช้ไฟฟ้าและลองเดินเล่นที่ชิโอะโนะมิจิดูสักครั้ง#โอตาริ_พื้นที่อุจู

ซากุระต้นเดี่ยวที่อยู่ในนาขั้นบันได ต้นซากุระที่สวยและน่ารักเฝ้ามองพื้นที่วาเดะมูระในนากาสึจิมาจากที่นี่ ดูกลมกลืนไปกับนาขั้นบันไดและแนวสันเขามุ่งสู่เมียวโค ช่วยปลอบประโลมจิตใจให้แก่ผู้คนที่เดินทางในเส้นทางชิโอะโนะมิจิ นอกจากความงามในเวลากลางวันแล้ว ต้นซากุระในภาพทิวทัศน์ยามราตรีก็งดงามเช่นกัน#โอตาริ_พื้นที่นากาสึจิ

เดิน 30 นาทีจากสถานี JR ชินาโนะโอมาจิ จากสวนสาธารณะโอมาจิที่อยู่บนเนินสูง คุณสามารถชมภาพทิวทัศน์เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือและบ้านเมืองได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ (กลางเดือนเมษายน) การผสมผสานของภาพดอกซากุระบานในสวนสาธารณะกับเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือคือจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยม สวนแห่งนี้อยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์เทือกเขาโอมาจิอีกด้วย#เมืองโอมาจิ_สวนสาธารณะโอมาจิ

หุบเขาทาคาเสะครอบคลุม 3 เขื่อนที่ทอดตัวต่อเนื่องไปตามแม่น้ำทาคาเสะ (เขื่อนโอมาจิ, เขื่อนนานาคุระ, เขื่อนทาคาเสะ) และพื้นที่โดยรอบซึ่งรวมถึงคุสุออนเซนด้วย ภาพเขื่อนขนาดมหึมาที่จู่ๆ ก็ปรากฎขึ้นท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เป็นภาพที่น่าประทับใจยิ่งนัก ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีเลื่องชื่อของจังหวัด ช่วงที่ควรมาชมคือกลางเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน#โอมาจิ_หุบเขาทาคาเสะ

นั่งกอนโดล่า 1 ครั้ง ต่อด้วยลิฟต์อีก 2 ครั้ง แล้วเดินอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็จะไปถึงที่นี่ ภาพที่ทอดตัวกว้างอยู่ตรงหน้าคือบึงฮัปโปอิเกะที่สวยมากจนรู้สึกว่าคุ้มค่ากับการเดินทาง ในวันที่ท้องฟ้ามีเมฆน้อย ภาพภูเขาจะสะท้อนในสระอย่างชัดเจนราวกระจก ที่นี่เป็นแหล่งอาศัยของซาลาแมนเดอร์ ผู้คนก็นิยมพาเด็กๆ มาเที่ยว#หมู่บ้านฮาคุบะ_บึงฮัปโปอิเกะ

สวนพฤกษศาสตร์บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1515 เมตร ที่เดินทางไปถึงได้ด้วยการนั่งกอนโดล่าเพียงต่อเดียว การได้ชมพืชพันธุ์แห่งภูเขาสูงอย่างใกล้ชิดคือเคล็ดลับที่ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยม เปิดให้บริการเดือนมิถุนายน - ตุลาคม ดอกไม้เล็กๆ โผล่พ้นจากหิมะละลาย พุ่มพืชพันธุ์ที่กำลังเติบโตเบ่งบาน หมู่ไม้ต่างๆ พากันผลิดอกเบ่งบานในแต่ละฤดูกาล ให้บรรยากาศแตกต่างไปตามฤดูที่มาเยี่ยมเยียน#ฮาคุบะ_สวนพฤกษศาสตร์ภูเขาสูงฮาคุบะโกะริว

หนึ่งในจุดชมซากุระที่สวยที่สุดในหมู่บ้านฮาคุบะซึ่งมีผู้คนมาเที่ยวชมซากุระมากมาย ช่วงเวลาที่เหมาะจะไปชมคือเดือนพฤษภาคม ในปีที่หิมะแรกตกเร็ว คุณจะได้ชมภาพใบไม้เปลี่ยนสีสามระดับของฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งงดงามด้วยสีขาวจากหิมะ สีแดงของใบไม้เปลี่ยนสี และใบไม้ที่ยังเป็นสีเขียว ความงามที่สรรสร้างโดยธรรมชาติ ในสวนสาธารณะโออิเดะมีสะพานแขวนและสิ่งก่อสร้างหลังคามุงจาก เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือที่มองเห็นเหนือหลังคาคือภาพความงามที่พลาดไม่ได้#ฮาคุบะ_สวนสาธารณะโออิเดะ

ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1900 เมตร สวนธรรมชาติสึงะอิเกะอยู่ในอุทยานแห่งชาติชูบุซังงากุ สายน้ำจากหิมะละลายทำให้มีทางน้ำมากมายจนดูเหมือนรอยคนเล่นสกี ช่วงที่ควรมาชมพืชพันธุ์ภูเขาสูงคือตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่สวนธรรมชาติสึงะอิเกะเริ่มเปิดให้เข้าชม ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงงดงามจนยากจะบรรยาย#โอตาริ_สวนธรรมชาติสึงะอิเกะ

ในปีเมจิ 44 (ค.ศ. 1911) เนินลาดทางเหนือของยอดเขาเกิดการถล่มครั้งใหญ่ แม่น้ำที่อยู่ด้านล่างถูกดินที่ถล่มลงมากั้นจนทำให้เกิดความเสียหายมากมาย นี่คือ “การถล่มของภูเขาฮิเอดะ” ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของภูเขาถล่มครั้งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ในปี 2021 มีการติดตั้งป้ายแนะนำเกี่ยวกับการถล่มของภูเขาฮิเอดะที่หอชมวิว “สถานีถ่ายทอดสัญญาณวิทยุมัตสึกามิเนะ” ซึ่งสามารถมองเห็นไปได้ทั่วบริเวณ#โอตาริ_ภูเขาฮิเอดะ

บึงคามะอิเกะอยู่ลึกเข้าไปเล็กน้อยจากภูเขาอามาคาซาริซึ่งเป็นหนึ่งในร้อยภูเขาเลื่องชื่อของญี่ปุ่น มีทางเดินรอบสระยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 40 นาที ในเดือนตุลาคมจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาชมภาพความงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนบนผืนน้ำ ถ้าได้ชมอาทิตย์ยามเช้าหรือบรรยากาศน่าลึกลับที่เกิดจากหมอกก็ถือว่าคุณโชคดี#โอตาริ_บึงคามะอิเกะ